วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

ยาเสพติดระบาดหนักมากกว่า 1.2 ล้านคน ป.6 ก็เสพแล้ว

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 18 มกราคม ที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จ.เชียงใหม่ กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เร่งรัดติดตามการดำเนินงานสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะ ยาเสพติด ใน พื้นที่ โดยมีผู้บริหารจากกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าตำรวจ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องงถิ่น ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ป.ป.ส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม เพื่อรับนโยบายการทำงานและแนวทางแก้ปัญหาตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดปี 2555 นโยบายของรัฐบาล

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า การป้องกันปัญหายาเสพติด มีขั้นตอนการดูแลอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากการเพิ่มความเข้าถึงในการสกัดกั้นยาเสพติด ตามแนวชายแดนจากผลการ ปฏิบัติการและงานด้านการข่าวที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มผู้ค้ายังมีความต้องการนำเข้ายาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะการลักลอบมาจากเส้นทางภาคเหนือ และกระจายไปจำหน่ายตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจากข้อมูลยังพบตัวเลขผู้เสพยาเสพติด ขณะนี้มีมากกว่า 1 ล้าน 2 แสนคน ทั้งนี้ ในการป้องกันปราบปราม ทุกฝ่ายต้องเริ่มเอกซเรย์ตั้งแต่ชุมชนหมู่บ้าน" พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว

เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวต่อว่า วิธีสังเกตพื้นที่สังเกตเห็นได้ง่ายคือ มีการลักขโมยในพื้นที่อยู่เป็นประจำ มีจำนวนผู้เสพเพิ่มมากขึ้น เกิดปัญหามีการก่อคดีจี้ตัวประกันหรือทำร้ายตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งหากพื้นที่ใดมีเหตุในลักษณะเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการระบาดของยาเสพติด ในพื้นที่ได้อย่างดี    

ด้านนายเพิ่มพงษ์ ชวลิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขการระบาดของยาเสพติดได้ขยายวงออกไป โดยจากการสำรวจและตัวเลขการปราบปรามจับกุม พบว่ามีพื้นที่จำนวน 338 อำเภอ หรือกว่า 6 หมื่นหมู่บ้าน เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดของยาเสพติด และกำลังรุนแรงมากขึ้นถือได้ว่าการระบาดได้ลุกลามไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของหมู่บ้านทั้งหมดทั่วประเทศ ทั้งยาบ้า และยาไอซ์  โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.6 ขึ้นไป เป็นกลุ่มที่พบในจำนวนผู้เสพรายใหม่มากที่สุด

รองเลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า จากตัวเลขยังพบการระบาดของ ยาไอซ์ ที่เพิ่มสูงขึ้นใกล้เคียงกับ ยาบ้า ดังนั้น ทุกหน่วยงานต้องหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วย โดยในการบำบัดรักษา  ต้องใช้งบกว่า 1หมื่น 2 พันล้านบาท ในการบำบัดรักษาผู้เสพ ดังนั้น การใช้จ่ายงบประมาณผ่านหน่วยงานองค์กรต่างๆ จะต้องมีการบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้การบำบัดผู้เสพ ยาเสพติด เกิดประโยชน์สูงสุด

ขณะที่นายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เหตุที่ต้องหยิบยกปัญหายาเสพติด ขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากมีการระบาดของยาเสพติด เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีการปล่อยปะละเลยมานานนั้นในการแก้ปัญหาระดับจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด รวมทั้งระดับอำเภอ นายอำเภอและผู้กำกับสถานีตำรวจ จะต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน ขับเคลื่อนไม่ให้ยาเสพติดระบาดไปยังกลุ่มต่างๆ ได้ โดยเริ่มป้องกันตั้งแต่สถาบันครอบครัว ขยายไปยังชุมชน โรงเรียน หมู่บ้าน และอำเภอ ถ้าสามารถสร้างพลังของคนในชุมชนให้เข้มแข็ง ก็จะช่วยแก้ปัญหาและป้องกันยาเสพติดได้


ที่มา : มติชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น